จากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่วิกฤตในรอบหลาย 10 ปี โดยจุดเริ่มต้น เกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 เขาคอหงส์ ฝนตกหนักถึง 300 มม. และได้ล้นเขาไปยังที่ต่างๆ โดยน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากไม่ได้มาจากต้นน้ำอย่างเดียว
ยังคงมีฝนตกหนักจนน้ำมหาศาลล้อมเมืองหาดใหญ่ทุกๆทาง ซึ่งสาเหตุที่ไม่สามารถเอาอยู่ โดยปกติการแจ้งเตือนมักอ้างอิงจากคลอง ร.1 ยาว 24 กม. ซึ่งปกติแล้วฝนตกลงมาต้องมาจาก อ.สะเดา แต่คลอง ร.1 ในวันที่ 21 ไม่ได้ขึ้นสูง จึงทำให้ทางการเมืองหาดใหญ่ไม่ได้ขึ้นธงแดงเเจ้งเตือน
1. สภาพภูมิประเทศ: “หาดใหญ่” เป็นพื้นที่ลุ่มลาดลงสู่ทะเลสาบสงขลา ทำให้น้ำไหลลงมารวมกันได้ง่าย ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุน น้ำจะระบายลงทะเลได้ยาก
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
2. สภาพภูมิอากาศ: ฝนตกหนักผิดปกติ เกิดจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น และมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ปกคลุมทะเลอันดามันตอนล่าง เคลื่อนตัวช้า ทำให้เกิดฝนตกหนักใน 10 จังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.68 โดยปริมาณฝนในช่วงวันที่ 19-22 พ.ย. มี ปริมาณฝนรวม 595 มม. น้ำทุกสายไหลลงมาสู่คลองอู่ตะเภา และล้นท่วมเมืองหาดใหญ่
3. ปรากฏการณ์ “ลานีญา”: ในช่วงปลายปี อิทธิพลของ “ลานีญา” ทำให้เพิ่มความชื้นในอากาศมากกว่าปกติ
4. การขยายตัวของเมืองแทนที่พื้นที่ป่าไม้: มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินพื้นที่รอบเมือง การขยายตัวของเมืองหาดใหญ่ มีการสร้างอาคารและถนนเข้ามาแทนที่ พื้นที่เกษตรกรรมและป่าไม้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยช่วยซับน้ำ เมื่อไม่มีที่ซับน้ำทำให้น้ำไหลลงสู่คลองอู่ตะเภาเร็วและรุนแรงมากขึ้นจนรับไม่ไหวจนน้ำเอ่อล้นท่วมตัวเมือง และทิศทางการไหลของน้ำเปลี่ยนแปลงไป
5. การบริหารจัดการ: เทศบาลหาดใหญ่ยังขาดการเตรียมความพร้อมของ “แผนเผชิญเหตุ” ทั้งเรื่องการอพยพประชาชน ขาดการเตรียมความพร้อมของเสบียง ยานพาหนะ และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ
