
ประเด็นร้อนระหว่าง กัน จอมพลัง และ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ยังคงเป็นที่จับตา หลังเกิดกระแสวิพากษ์เกี่ยวกับความโปร่งใสของมูลนิธิ “กัน จอมพลังช่วยสู้” โดยภายหลังณวัฒน์ออกมาเปิดเผยว่า ขอคืนเงินบริจาคจำนวน 50,000 บาทที่เคยมอบให้มูลนิธิ ทำให้กัน จอมพลัง ตัดสินใจโอนเงินส่วนตัวจำนวนดังกล่าวคืนให้ทันที พร้อมประกาศว่า จะไม่ขอรับเงินบริจาคใด ๆ เพิ่มจากประชาชนอีกต่อไป โดยขอให้สนับสนุนกันผ่านการซื้อสินค้าและกิจกรรมไลฟ์ขายของแทน

ต่อมา ณวัฒน์ โพสต์ตอบกลับทันที ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการรับเงินคืนจากบัญชีส่วนตัวของกัน แต่ต้องการให้คืนจาก “บัญชีมูลนิธิ” เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักบัญชีของบริษัท พร้อมระบุว่า การโอนเงินส่วนตัวกลับมานั้น อาจไม่สามารถบันทึกทางบัญชีได้อย่างถูกต้อง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ทุกอย่างควรดำเนินไปตามกฎหมายจะดีที่สุด”
ในเวลาต่อมา ณวัฒน์ ได้ออกมาไลฟ์สดแสดงจุดยืน โดยยืนยันว่า เงินจำนวน 50,000 บาทที่ได้รับคืน เขาไม่เก็บไว้เอง แต่ตั้งใจจะนำไปบริจาคให้สภากาชาดไทย พร้อมระบุชัดว่า
“ผมจะไม่ให้เงินนี้กับใครที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่ให้กับผู้หญิงชื่ออีฟ ไม่ให้พิงกับแป้ง และไม่ให้พิงกับการเมืองแน่นอน ถ้าได้เงินคืนมา ผมจะโอนต่อให้สภากาชาดไทยทันที ผมไม่อยากให้เงินนี้อยู่ในความเสี่ยงหรือในกลุ่มผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น”
ณวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมูลนิธิเป็นผู้โอนคืนโดยตรง เรื่องก็จะจบลงทันที เพราะมูลนิธิยังมีเงินอยู่กว่า 90 ล้านบาท การคืนเพียง 50,000 บาทไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และหลังจากนั้นตนก็พร้อมถอยออกจากเรื่องนี้โดยไม่ขอพาดพิงอีก

ขณะที่ กัน จอมพลัง ออกมาชี้แจงภายหลังว่า ได้โอนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาทคืนให้ตามที่ณวัฒน์ร้องขอแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่รับเงินส่วนตัว จึงได้โอนเงินจำนวนเดียวกันเข้าสู่บัญชีมูลนิธิอีกครั้ง พร้อมระบุข้อความกำกับว่า “ขอบริจาคช่วยมูลนิธิกัน จอมพลัง เพื่อนำเงินคืนคุณณวัฒน์”
กันกล่าวย้ำว่า ไม่ได้ต้องการขอเงินบริจาคคืนจากใคร และยืนยันว่าพร้อมจบเรื่อง โดยระบุว่า
“คุณณวัฒน์จะเอาไปซื้อน้ำพริกแจกคน หรือทำอะไรก็แล้วแต่เลยครับ ผมอยากให้เรื่องนี้จบ เพื่อให้ทุกคนกลับไปทำมาหากินต่อ”
อย่างไรก็ตาม ทาง บอสณวัฒน์ ได้เคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับ กัน จอมพลัง ปมเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ลิซ่า ลลิษา มโนบาล บริจาค ให้ กัน จอมพลังถึง 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาทราบว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอม


