
ภูมิธรรม เวชยชัย” โพสต์ข้อความล่าสุด เรื่อง คำสั่งหยุดยิง โดยได้เปิดเผยผ่าน เฟ ซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ว่า
ที่มีการปะทะกันระหว่างกองทัพไทยกับกัมพูชา ทำให้เกิดคำถามคาดเดาไปต่างๆนานา และสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสังคม
ในฐานะ ผู้เคยปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านความมั่นคง และประธาน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผมเห็นว่าควรนำข้อเท็จจริงจากช่วงเวลานั้นมา อธิบายให้ประชาชนได้รับทราบอย่างชัดเจนดังนี้
1. หลังจากเกิดเหตุความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลในขณะนั้นได้เรียก ประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568
ที่ประชุมได้มีการหารืออย่างรอบคอบ และมีมติสำคัญคือ
> “มอบอำนาจให้กองทัพสามารถตัดสินใจได้ตามหลัก Rules Of Engagement
ซึ่งหมายความว่า กองทัพไทยมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเชิงยทธวิธี เพื่อป้องกัน ประเทศตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากฝ่ายการเมือง
2.การปฏิบัติการป้องกันประเทศในครั้งนั้นมีสองระดับที่ชัดเจน คือ
ระดับนโยบาย (รัฐบาล): กำหนดกรอบยุทธศาสตร์และแนวทางทางการเมือง เพื่อ รักษาผลประโยชน์ของชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ระดับปฏิบัติ (กองทัพ): เป็นผู้ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีและ ROE ที่ได้รับมอบอำนาจ เต็มจาก สมช.
ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า “มีคำสั่งหยุดยิงจากฝ่ายการเมือง” ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะใน ห้วงเวลานั้น กองทัพได้รับอำนาจในการปฏิบัติอย่างอิสระ ภายใต้กรอบกฎหมายและ กติกาสากล
3. ตลอดช่วงสถานการณ์ มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง สมช. กระทรวง กลาโหม และกองทัพภาคที่เกี่ยวข้อง โดย สมช. ทำหน้าที่ “กำหนดทิศทางและเป็น ศูนย์รวมข้อมูล” ให้รัฐบาลใช้ตัดสินใจในเชิงนโยบาย
ในขณะที่หน่วยปฏิบัติได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายและเสรี
ในการปฏิบัติหน้าที่
ผ่านกลไกของกฎอัยการศึก
เฉพาะพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับสามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ โดยไม่ต้องกังวล เรื่องผลทางกฎหมายภายหลัง
ทั้งนี้ ในกระบวนการขั้นตอนทั้งหมด
ที่กล่าวในข้างต้น รัฐบาลในขณะนั้นมีหลักการสำคัญ โดยยึดมั่นในสันติวิธีตามหลัก สากลและการเคารพอธิปไตยของ
การเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ แต่จะไม่ยอมให้ใครละเมิดแผ่นดิน ไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และทุกการตัดสินใจอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและกลไก ความมั่นคงของรัฐ
ที่ผ่านมา ในช่วงที่ผมเป็นรมว.กลาโหมได้ทำงานประสานกับผู้นำเหล่าทัพต่างๆ
อย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีการหารือ และรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบคอบ
ผมเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของผู้นำเหล่าทัพทุกท่าน ทำให้ภารกิจด้านความมั่นคง ของประเทศผ่านไปด้วยความราบรื่น และอำนวยประโยชน์ให้ประเทศอย่างสูงสุด โดย ยึดหลักความรับผิดชอบ โปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ
ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า
ทุกการตัดสินใจในช่วงเวลานั้น มีจุดยืนเพียงหนึ่งเดียวคือ
“ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และ หลีกเลี่ยงความรนแรงเพื่อ ลดความสูญเสียของกำลังพลและพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนให้ได้มากที่สุด”10 พ.ย.68

