เคสอุทาหรณ์ ชายติด “เชื้อราที่อวัยวะเพศ” จากการซักผ้า กกน.ร่วมกับผ้าชนิดนี้“คุณหวัง” ชาวจีน อายุ 60 ปี ป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้ามานานกว่า 10 ปี เพื่อประหยัดเวลา น้ำ และไฟฟ้า เขาจึงมีนิสัยซักถุงเท้าและกางเกงชั้นในพร้อมกัน ซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นอันตราย จนกระทั่งเขาพบผื่นแดงที่บริเวณขาหนีบ ลุกลามและทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงเมื่อเขาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคน้ำกัดเท้า และสาเหตุหลักคือเชื้อราที่เท้า ซึ่ง “แพร่กระจาย” ไปสู่กางเกงชั้นในระหว่างการซัก ที่สำคัญคือยังเป็นโรคเบาหวานด้วย ซึ่งทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ติดเชื้อรุนแรงยิ่งขึ้นกรณีของคุณหวังไม่ใช่เรื่องแปลก แพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งแรกของมหาวิทยาลัยการแพทย์เจ้อเจียง ประเทศจีน ระบุว่าผู้ป่วยมักติดเชื้อราเนื่องจากนิสัยชอบซักผ้าแบบ “ขี้เกียจ” เช่น ซักชุดชั้นใน ถุงเท้า หรือแม้แต่ผ้าขนหนูรวมกัน หลายคนเริ่มมีเชื้อราที่เท้าในช่วงแรก ก่อนเชื้อราจะแพร่กระจายไปยังบริเวณจุดซ่อนเร้น ใบหน้า และหลังข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวพุ่งขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหาในจีนอย่างรวดเร็ว โดยมีการพูดคุยมากกว่า 20 ล้านครั้ง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากยังคงทำอย่างเงียบๆ ทุกวันกางเกงชั้นใน หรือถุงเท้า อะไรสกปรกกว่ากัน?
คำตอบคือ สกปรกพอๆ กัน หรือจะพูดให้ชัดกว่านั้นคือ “แต่ละอย่างก็มีความสกปรกในแบบของตัวเอง”
ถงเท้า โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกายหรือมีเหงื่อ กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียชั้นดี เพราะมีความอุ่น ชื้น และอับ
กางเกงใน เต็มไปด้วย “สิ่งปนเปื้อนทางชีวภาพ” เช่น เหงื่อ น้ำมันจากร่างกาย แบคทีเรีย เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ไปจนถึงคราบปัสสาวะหรืออุจจาระที่อาจหลงเหลือ แม้ว่าคุณจะล้างทำความสะอาดร่างกายอย่างดีแล้วก็ตาม กางเกงในก็ไม่เคยสะอาดปลอดเชื้อ 100%
แล้วจะซักรวมกันได้ไหม? คำตอบคือได้! ถ้าทำตาม 3 ข้อนี้
1.ไม่มีใครในบ้านมีโรคผิวหนังติดต่อได้ เช่น เชื้อราที่เท้า ขาหนีบ ลำตัว กลากเกลื้อน หรือเชื้อราที่เล็บมือเล็บเท้า แต่ถ้ามี ต้องซักแยกเท่านั้น
2.ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ เพราะเครื่องซักผ้าคือแหล่งสะสมเชื้อโรคแบบเงียบ ๆ แนะนำให้เรียกช่างมาล้างเครื่องทุก 3–6 เดือน โดยเฉพาะเครื่องฝาหน้า
3.ฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธีตอนซักผ้า ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยกับเนื้อผ้า, ซักน้ำร้อนถ้าเครื่องรองรับ และที่สำคัญที่สุดคือต้องตากทันทีหลังซักเสร็จ อย่าทิ้งไว้ในเครื่องนาน เพราะความชื้นทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ แสงแดดและรังสี UV จากธรรมชาติ คือ “ยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ” ที่มีประสิทธิภาพสูง